อังกฤษกำลังร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อมีรายงานออกมาว่า อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่ม “ถอดใจ” กับการรอให้ กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้าทีมชาติบราซิลกลับมาสู่ฟอร์มเก่งอย่างที่แฟนบอลคาดหวัง และได้ติดต่อไปยัง เอฟเวอร์ตัน เพื่อสอบถามความเป็นไปได้ในการคว้าตัวกองหน้ารายหนึ่งมาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ข่าวดังกล่าวสร้างความฮือฮาในหมู่แฟนบอลอย่างมาก เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณสำคัญว่า มิเกล อาร์เตต้า เริ่มหมดความอดทนกับแนวรุกที่ไม่สามารถผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง
กาเบรียล เชซุส ถูกคาดหวังอย่างสูงตั้งแต่ย้ายจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีมอาร์เซน่อลเมื่อกลางปี 2022 ด้วยค่าตัวกว่า 45 ล้านปอนด์ เขาคือหนึ่งในนักเตะที่อาร์เตต้าต้องการมากที่สุด เนื่องจากทั้งคู่เคยร่วมงานกันในถิ่นเอติฮัดมาก่อน ช่วงเริ่มต้นในฤดูกาลแรก ดาวเตะชาวบราซิลตอบแทนความไว้วางใจทันทีด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ทั้งการเคลื่อนที่ การเพรสซิ่ง และความเข้าใจเกมที่เข้ากับระบบของอาร์เตต้าอย่างสมบูรณ์แบบ เขากลายเป็นศูนย์กลางของแนวรุกที่ช่วยให้อาร์เซน่อลทะยานขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในครึ่งฤดูกาลแรก และดูเหมือนว่าทีมจะกลับมามีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ อาการบาดเจ็บหัวเข่าที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลก 2022 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เชซุสต้องพักยาวหลายเดือน และแม้จะกลับมาลงสนามได้ในช่วงท้ายฤดูกาล แต่เขาก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มเดิมกลับมาได้อีกเลย ความมั่นใจในการจบสกอร์ลดลง การเคลื่อนที่ที่เคยเป็นจุดเด่นดูเชื่องช้าลง และที่สำคัญคือเขาเริ่มถูกวิจารณ์จากแฟนบอลในเรื่อง “ความเฉียบคม” ที่ไม่เพียงพอสำหรับศูนย์หน้าของทีมลุ้นแชมป์
สถิติของเขาในฤดูกาลปัจจุบันยิ่งตอกย้ำความกังวลนั้น เชซุสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 10 นัด แต่ทำได้เพียง 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ตัวเลขที่ถือว่าต่ำเกินคาดสำหรับกองหน้าที่ถูกวางเป็นคีย์แมนของทีม สื่ออังกฤษอย่าง The Athletic รายงานว่า ภายในสโมสรเริ่มมีการประชุมภายในเกี่ยวกับ “ทางเลือกในตำแหน่งกองหน้า” และหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกพูดถึงคือการมองหาผู้เล่นใหม่จากทีมระดับกลางของลีกที่มีความกระหายและพร้อมพิสูจน์ตัวเอง
ชื่อของเอฟเวอร์ตันถูกยกขึ้นมาเป็นทีมที่อาร์เซน่อลอาจเข้าเจรจาด้วย เนื่องจากทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์มีแนวโน้มที่จะเปิดรับข้อเสนอหากได้ราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่พวกเขากำลังเผชิญปัญหาทางการเงินและมีแนวโน้มต้องขายผู้เล่นบางส่วนออกเพื่อปรับสมดุลทางบัญชี นักเตะอย่าง โดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน และเบโต้ คือสองชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในฐานะเป้าหมายของทีมปืนใหญ่
มิเกล อาร์เตต้า เองก็เคยพูดอย่างเปิดเผยในงานแถลงข่าวหลังเกมที่ทีมเสมอกับไบรท์ตันว่า “เราจำเป็นต้องมีความเฉียบคมมากกว่านี้ในพื้นที่สุดท้าย เราสร้างโอกาสได้มากมาย แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถชนะเกมใหญ่ได้” คำพูดนั้นถูกตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณไปยังผู้เล่นแนวรุก โดยเฉพาะเชซุสที่ยังไม่สามารถทำผลงานให้สอดคล้องกับความคาดหวังได้
ในมุมของเชซุส เขายอมรับว่าตัวเองอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก “ผมรู้ว่าผมยังทำได้ไม่ดีพอ ผมพยายามซ้อมหนักขึ้นทุกวัน และเชื่อว่าผมจะกลับมาได้ แต่ในฟุตบอล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลลัพธ์” เขากล่าวหลังเกมแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เสียงของเขาฟังดูหนักแน่นแต่แฝงด้วยความกดดันอย่างเห็นได้ชัด
อาร์เซน่อลในยุคอาร์เตต้าเป็นทีมที่มีระบบการเล่นชัดเจน เน้นการครองบอลและการเคลื่อนที่อย่างมีแบบแผน แต่ในหลายเกมช่วงหลัง พวกเขากลับขาด “ตัวจบสกอร์ธรรมชาติ” ที่สามารถเปลี่ยนโอกาสเล็ก ๆ ให้กลายเป็นประตูได้ ในขณะที่แนวรุกอย่างกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และบูกาโย่ ซาก้า ต่างทำผลงานได้ดีในบทบาทปีก แต่ศูนย์กลางในแดนหน้ากลับไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้เหมือนช่วงแรกของฤดูกาลก่อน
มีรายงานจาก ufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด วิเคราะห์สถานการณ์ของทีมปืนใหญ่ว่า “ปัญหาของอาร์เซน่อลไม่ใช่การสร้างโอกาส แต่คือการจบสกอร์ พวกเขามีค่าเฉลี่ยการยิงต่อเกมสูงติดอันดับท็อปของลีก แต่ค่าเฉลี่ยการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูอยู่ในระดับต่ำกว่าทีมลุ้นแชมป์รายอื่นอย่างแมนฯ ซิตี้ และลิเวอร์พูล” UFABET ยังระบุเพิ่มเติมว่า “ความกดดันเริ่มตกอยู่ที่อาร์เตต้า เพราะหากไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ภายในเดือนมกราคม โอกาสลุ้นแชมป์อาจหลุดลอยไปอีกครั้งเหมือนฤดูกาลก่อน”
สิ่งที่ทำให้แฟนบอลบางส่วนเริ่มตั้งคำถามกับเชซุสคือ “ความเฉียบขาด” ที่เขาเคยมีในช่วงอยู่กับแมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เขาเคยถูกใช้งานในหลายตำแหน่ง ทั้งปีกขวาและกองหน้าตัวหลอก ซึ่งอาจทำให้สัญชาตญาณการจบสกอร์ของเขาลดลงไปโดยไม่รู้ตัว และเมื่อมาอยู่ในระบบที่ต้องรับผิดชอบการทำประตูหลัก เขากลับไม่สามารถแบกรับภาระนั้นได้เต็มที่
แหล่งข่าวภายในของอาร์เซน่อลเปิดเผยกับ Daily Mail ว่า “อาร์เตต้ายังเชื่อในตัวเชซุสในแง่ของการทำงานเพื่อทีม แต่เริ่มมองเห็นชัดเจนว่าทีมต้องการกองหน้าที่มีสัญชาตญาณเพชฌฆาตมากกว่านี้ เพราะในเกมระดับสูง คุณไม่สามารถพึ่งแค่การประสานงานที่สวยงามได้ คุณต้องการใครบางคนที่จบสกอร์ได้จากจังหวะเดียว”
แนวทางการมองหากองหน้าจากเอฟเวอร์ตันจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะโดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน เป็นหนึ่งในกองหน้าสัญชาติอังกฤษที่มีจุดเด่นเรื่องลูกกลางอากาศและความแข็งแกร่งในการยืนชน ซึ่งเป็นสิ่งที่อาร์เซน่อลยังขาด แม้จะมีเชซุสที่คล่องและเทคนิคดี แต่เขามักหายไปเมื่อเจอกับแนวรับที่สูงใหญ่และเล่นเกมรับแน่น
อาร์เตต้ามองว่าการมีตัวเลือกในแดนหน้ามากขึ้นจะช่วยให้ทีมมีความยืดหยุ่นในแท็กติก และยังสามารถลดภาระของเชซุสลงได้บ้าง เขาเคยกล่าวไว้ว่า “ทีมที่ดีต้องมีการแข่งขันภายใน ทุกคนต้องรู้ว่าตำแหน่งของตัวเองไม่ใช่สิ่งที่ได้มาฟรี ๆ” ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดของเขาในการสร้างทีมที่มีแรงผลักดันตลอดเวลา
แม้ยังไม่มีการยืนยันจากทั้งสองสโมสรเกี่ยวกับการติดต่อครั้งนี้ แต่หลายสื่อในอังกฤษเชื่อว่าการพูดคุยเบื้องต้นได้เริ่มขึ้นแล้ว และอาร์เซน่อลอาจยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการหากสถานการณ์ของเชซุสไม่ดีขึ้นก่อนสิ้นปี “ตลาดมกราคมจะเป็นจุดตัดสินใจสำคัญ” แหล่งข่าววงในกล่าว “ถ้าเชซุสยังไม่สามารถคืนฟอร์มได้ อาร์เซน่อลจะไม่ลังเลที่จะหากองหน้าคนใหม่เข้ามาเสริม”
ในอีกมุมหนึ่ง บางฝ่ายมองว่าการติดต่อเอฟเวอร์ตันครั้งนี้อาจเป็นเพียงการ “กดดัน” เชซุสทางอ้อม เพื่อให้เขาเรียกฟอร์มกลับมา เพราะอาร์เตต้ามีประวัติชัดเจนว่าไม่ชอบใช้วิธีตำหนิในที่สาธารณะ แต่จะส่งสัญญาณเตือนผ่านการกระทำ เช่น การหมุนเวียนผู้เล่น หรือการส่งข่าวลือออกสู่สื่อให้ผู้เล่นรู้ว่าตำแหน่งของตนไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป
สถานการณ์ของอาร์เซน่อลในตอนนี้ยังอยู่ในโซนลุ้นแชมป์ แต่สิ่งที่ขาดหายคือความคมในเกมรุกที่เคยทำให้พวกเขาน่ากลัวในฤดูกาลก่อน การเล่นที่เน้นการต่อบอลละเอียดและจังหวะสวยงามกลายเป็นดาบสองคม เพราะเมื่อเจอทีมที่เล่นเกมรับแน่น อาร์เซน่อลมักขาดนักเตะที่สามารถ “สร้างประตูจากความไม่มีอะไร” ได้
ในแง่แท็กติก เชซุสมักถอยลงต่ำเพื่อเชื่อมเกมกับเพื่อนมากกว่าการยืนค้ำในเขตโทษ ทำให้หลายครั้งอาร์เซน่อลไม่มีผู้เล่นอยู่ในตำแหน่งจบสกอร์เวลาบอลเปิดเข้ากลาง อาร์เตต้าพยายามปรับระบบให้มาร์ติเนลลี่ หรือซาก้า เติมเข้ามาปิดช่องนั้น แต่ก็ยังไม่ใช่คำตอบระยะยาว เพราะทั้งคู่เป็นผู้เล่นที่ถนัดริมเส้นมากกว่า
บทวิเคราะห์จาก ufabet เล่นผ่านมือถือ รองรับ iOS และ Android มองว่าปัญหานี้เป็นเรื่องของ “โครงสร้างแท็กติก” มากพอ ๆ กับ “ฟอร์มของผู้เล่น” โดยระบุว่า “อาร์เซน่อลเล่นในระบบที่ใช้ False 9 มานาน ทำให้ศูนย์หน้าต้องแบกรับทั้งการสร้างสรรค์เกมและการจบสกอร์ในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นงานที่หนักมากสำหรับผู้เล่นอย่างเชซุส การเสริมกองหน้าแบบ Target Man เข้ามาจะช่วยให้ทีมมีมิติที่หลากหลายขึ้น”
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สื่ออังกฤษเชื่อว่าอาร์เซน่อลเริ่มมองหากองหน้าคนใหม่คือท่าทีของเชซุสเอง ที่ดูเหมือนจะขาดความมั่นใจในสนาม เขามักเลือกจ่ายบอลมากกว่ายิงเมื่ออยู่ในตำแหน่งที่สามารถจบสกอร์ได้ นั่นคือสัญญาณของผู้เล่นที่กำลังเผชิญแรงกดดันและกลัวความผิดพลาด ซึ่งในระดับพรีเมียร์ลีก ความลังเลเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้ทีมพลาดสามแต้มสำคัญได้
ในขณะที่แฟนบอลบางส่วนยังคงให้กำลังใจและเชื่อว่าเชซุสจะกลับมาได้ แต่อีกกลุ่มเริ่มเรียกร้องให้สโมสรตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เพราะฟุตบอลในระดับนี้ไม่สามารถรอใครได้ตลอดไป “เรารักเชซุส แต่เราต้องการกองหน้าที่จบสกอร์ได้จริง ๆ” นี่คือเสียงจากแฟนบอลในโซเชียลมีเดียที่สะท้อนความรู้สึกของหลายคนในเวลานี้
สำหรับเอฟเวอร์ตัน แม้พวกเขาจะไม่อยากเสียผู้เล่นตัวหลักในช่วงกลางฤดูกาล แต่ถ้าได้รับข้อเสนอที่ดีจากอาร์เซน่อล ก็อาจพิจารณาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่มั่นคงของสโมสร หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง มันจะเป็นหนึ่งในดีลที่น่าจับตาที่สุดของตลาดเดือนมกราคม เพราะจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของทั้งสองทีม
ท้ายที่สุด มิเกล อาร์เตต้ารู้ดีว่าการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต้องอาศัยทีมที่มีความสมบูรณ์ทุกมิติ เขาเคยพูดไว้ว่า “ทีมที่อยากเป็นแชมป์ต้องมีทั้งสมอง หัวใจ และเขี้ยวเล็บที่คมพอจะปิดเกมได้ในจังหวะสำคัญ” และในตอนนี้ ดูเหมือนว่า “เขี้ยวเล็บ” นั้นคือสิ่งที่อาร์เซน่อลยังขาดหายไป
ไม่ว่าอนาคตของกาเบรียล เชซุสจะเป็นอย่างไร การติดต่อเอฟเวอร์ตันครั้งนี้คือสัญญาณชัดเจนว่า อาร์เซน่อลไม่ได้พอใจกับการแค่ “ใกล้แชมป์” อีกต่อไป พวกเขาต้องการยกระดับทีมให้ไปถึงจุดที่สามารถคว้าโทรฟี่ได้จริง และนั่นหมายความว่าทุกตำแหน่งในสนามต้องพร้อม — โดยเฉพาะตำแหน่งศูนย์หน้า ที่เป็นหัวใจของเกมรุกและความหวังสูงสุดของแฟนบอลทั่วโลก
และในขณะที่แฟนบอลทั่วโลก รวมถึงผู้วิเคราะห์จาก ufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด ต่างจับตามองว่าใครจะเป็นกองหน้าคนใหม่ของอาร์เซน่อล สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ “แรงกดดัน” ตอนนี้อยู่ที่เชซุสโดยตรง เขาจะตอบสนองด้วยการคืนฟอร์มและพิสูจน์ว่าตัวเองยังคู่ควรกับเสื้อหมายเลข 9 ของทีมปืนใหญ่ หรือจะกลายเป็นอีกหนึ่งชื่อในรายชื่อนักเตะที่หลุดจากแผนการสร้างทีมยุคใหม่ของอาร์เตต้า — คำตอบทั้งหมดจะเริ่มปรากฏในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้